วันเสาร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2559

วันอาสาฬหบูชา

วันอาสาฬหบูชา


วันอาสาฬหบูชา หมายถึงการบูชาในวันเพ็ญเดือนอาสาฬหะหรือเดือน๘เนื่องในโอกาสคล้ายวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประกาศพระศาสนาเป็นครั้งแรกโดยแสดงปฐมเทศนาคือธัมมจักรกัปปวัตนสูตรเป็นผลให้เกิดมีพระสาวกรูปแรกขึ้นในพระพุทธ- ศาสนาจนถือได้ว่าเป็นวันแรกที่มีพระพุทธพระธรรมและพระสงฆ์ครบองค์พระรัตนตรัย

พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา(เทศนาเป็นครั้งแรก) เนื้อหาว่าด้วยทางสายกลาง (มัชฌิมา-ปฏิปทา) ที่นำไปสู่การบรรลุมรรคผลนิพพานอัญญาโกณฑัญญะได้บรรลุโสดาปัตติผลแล้วทูลขอบวชเป็นพระสาวกรูปแรกที่เป็นประจักษ์พยานในการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

สำหรับประเทศไทยถือเป็นประเทศแรกในบรรดาหลายๆประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนาที่ประกาศให้มีวันอาสาฬหบูชาและถือปฏิบัติมาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน

๑. ส่วนที่เกี่ยวกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ในวันเพ็ญเดือน๖และได้ประทับอยู่ณบริเวณที่ตรัสรู้นั้นตลอด๗สัปดาห์พระองค์ทรงใคร่ครวญถึงผู้ที่พระองค์จะแสดงธรรมโปรดอันดับแรกทรงระลึกถึงอาฬารดาบสและอุททกดาบสผู้เคยสอนความรู้ชั้นฌานให้แก่พระองค์มาแต่ท่านทั้ง๒ก็สิ้นชีพไปก่อนแล้วจึงทรงระลึกถึงปัญจวัคคีย์คือโกณฑัญญะวัปปะภัททิยะมหานามะและอัสสชิผู้ที่เคยมีอุปการคุณแก่พระองค์ทรงทราบด้วยพระญาณว่าฤาษีทั้ง๕นั้นมีอุปนิสัยแก่กล้าสามารถบรรลุธรรมได้จึงเสด็จออกจากต้นศรีมหาโพธิ์ณตำบลอุรุเวลาเสนานิคมเดินทางไปยังป่าอิสิปตนมฤคทายวันเมืองพาราณสีแคว้นกาสีเสด็จไปถึงเย็นวันขึ้น๑๔ค่ำเดือนอาสาฬหะรุ่งขึ้นเป็นวันขึ้น๑๕ค่ำพระองค์จึงทรงแสดงธัมมจักรกัปปวัตนสูตรอันเป็นพระธรรม-เทศนากัณฑ์แรกโปรดปัญจวัคคีย์ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวันนั้นเองสรุปความได้ว่าบรรพชิต(นักบวช) ไม่ควรประพฤติสิ่งที่สุดโต่ง ๒ ส่วนคือ ๑. การหมกมุ่นมัวเมาอยู่ในกามสุข(กามสุขัลลิกานุโยค) และ ๒.การทรมานตัวเองให้ลำบาก (อัตตกิลมถานุโยค) ควรดำเนินตามทางสายกลาง(มัชฌิมาปฏิปทา) คือ

มีความเห็นชอบ(สัมมาทิฐิ)

มีความดำริชอบ (สัมมาสังกัปปะ)

เจรจาชอบ(สัมมาวาจา)

ทำการงานชอบ (สัมมากัมมันตะ)

เลี้ยงชีพชอบ(สัมมาอาชีวะ)

เพียรชอบ (สัมมาวายามะ)

ระลึกชอบ(สัมมาสติ)

และตั้งมั่นชอบ(สัมมาสมาธิ)

ต่อจากนั้นจึงทรงแสดงอริยสัจ๔คือหลักความจริงของชีวิตที่สำคัญซึ่งจะเป็นเหตุทำให้หมดกิเลสอันได้แก่ทุกข์(ความเกิดความแก่และความตายเป็นต้น) สมุทัย(เหตุให้เกิดทุกข์คือความอยากต่างๆ) นิโรธ (ความดับทุกข์คือนิพพาน) และมรรค(ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์) เมื่อจบพระธรรมเทศนาท่านโกณฑัญญะก็ได้ดวงตาเห็นธรรม(เห็นตามเป็นจริง) ว่าสิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดาสิ่งนั้นมีความดับเป็นธรรมดา

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าครั้นทรงทราบว่าโกณฑัญญะได้ดวงตาเห็นธรรมสำเร็จเป็นโสดาบันแล้วจึงทรงเปล่งอุทานว่า อัญญาสิวะตะโภโกณฑัญโญอัญญาสิวะตะโภโกณฑัญโญแปลว่าโกณฑัญญะรู้แล้วหนอโกณฑัญญะรู้แล้วหนออันเป็นเหตุให้ท่านโกณฑัญญะได้นามว่าอัญญาโกณฑัญญะมานับแต่นั้นท่านอัญญาโกณฑัญญะได้ทูลขอบวชพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงบวชให้ด้วยวิธีบวชแบบเอหิภิกขุอุปสัมปทาจึงเป็นอันว่ามีองค์พระรัตนตรัยเกิดขึ้นครบบริบูรณ์ในวันนั้น

๒. การถือปฏิบัติวันอาสาฬหบูชาในประเทศไทยพิธีวันอาสาฬหบูชาเริ่มกำหนดเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อพุทธศักราช๒๕๐๑โดยพระธรรมโกศาจารย์(ชอบอนุจารี) ครั้งดำรงตำแหน่งสังฆมนตรีช่วยว่าการองค์การศึกษาได้เสนอคณะสังฆมนตรีให้เพิ่มวันศาสนพิธีทำพุทธบูชาขึ้นอีกวันหนึ่งคือ วันธรรมจักรหรือวันอาสาฬหบูชาด้วยเป็นวันคล้ายวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงธัมมจักรกัปปวัตนสูตรคณะสังฆมนตรีลงมติรับหลักการให้เพิ่มวันอาสาฬหบูชาและให้ถือเป็นหลักปฏิบัติในเวลาต่อมาโดยออกเป็นประกาศคณะสงฆ์เรื่องกำหนดวันสำคัญทางศาสนา เมื่อวันที่ ๑๔กรกฎาคม ๒๕๐๑ และในวันเดียวกันนั้นได้มีประกาศสำนักสังฆนายกกำหนดระเบียบปฏิบัติในพิธีอาสาฬหบูชาขึ้นไว้ให้วัดทุกวัดถือปฏิบัติทั่วกันกล่าวคือก่อนถึงวันอาสาฬหบูชา๑สัปดาห์ให้เจ้าอาวาสแจ้งแก่พระภิกษุสามเณรตลอดจนศิษย์วัดคนวัดช่วยกันปัดกวาดปูลาด-อาสนะจัดตั้งเครื่องสักการะให้ประดับธงธรรมจักรรอบพระอุโบสถตลอดวันทั้งเวลาเช้าและเวลาบ่ายให้มีการฟังธรรมตามปกติเวลาค่ำให้ภิกษุสามเณรอุบาสกอุบาสิกามาประชุมพร้อมกันที่หน้าพระอุโบสถหรือพระเจดีย์จุดธูปเทียนแล้วถือรวมกับดอกไม้ยืนประนมมือสำรวมจิตโดยพระสงฆ์ผู้เป็นประธานนำกล่าวคำบูชาจบแล้วทำประทักษิณครั้นแล้วให้ภิกษุสามเณรเข้าไปบูชาพระรัตนตรัยทำวัตรเย็นแล้วสวดธัมมจักรกัปปวัตนสูตรจบแล้วให้อุบาสกอุบาสิกาทำวัตรเย็นต่อจากนั้นให้พระสังฆเถระแสดงพระธรรมเทศนาธัมมจักรกัปปวัตนสูตรแล้วให้พระภิกษุสามเณรสวดธัมมจักรกัปปวัตนสูตรทำนองสรภัญญะเพื่อเจริญศรัทธาปสาทะของพุทธศาสนิกชนจบแล้วให้เป็นโอกาสของพุทธศาสนิกชนเจริญภาวนามัยกุศลสวดมนต์สนทนาธรรมบำเพ็ญสมถะและวิปัสสนาเป็นต้นตามควรแก่อัธยาศัยให้ใช้เวลาทำพิธีอาสาฬหบูชาไม่เกินเวลา๒๔.๐๐น. และได้มีการทำพิธีอาสาฬหบูชาอย่างกว้างขวางนับแต่นั้นมาทางราชการได้มีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีให้มีการชักธงชาติถวายเป็นพุทธบูชาในวันนี้ด้วยหลักธรรมที่ควรปฏิบัติ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น